"ความบันเทิงในธรรมนั้นมีพลังมาก" พระมหาเชิดชัย กวิวังโส จากกลุ่มพุทธทาสศึกษา เล่าคั่นรายการว่าสมัยที่ท่านบวชเป็นสามเณร ท่านได้คุยธรรมะกับกลวงตา ซึ่งป่วยเป็นโรคเก๊าต์ ตลอด ๓ ชั่วโมงที่พูดคุยกันนั้น หลวงตาท่านว่าความเจ็บปวดหายเป็นปลิดทิ้ง การเสวนาธรรมกับกัลยาณมิตรทำให้จิตเกิดปีติเช่นนี้เอง จึงถือเป็นโอสถบำบัดเยียวยาโรคอย่างดียิ่ง ส่วนโรคทางจิตวิญญาณ ที่หลวงพ่อพุทธทาส เรียกว่าโรคโง่ เพราะอวิชชาก็เห็นจะต้องรักษาด้วยธรรมโอสถเช่นเดียวกัน

จากประสบการณ์เมื่อคราวที่ไปร่วมโครงการธรรมโฆษณ์ศึกษาเพื่อสุขภาพทางจิตวิญญาณ สำหรับครั้งแรกนี้ที่จัดในหัวข้อ "อิทัปปัจจยตา" เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่อาศรมวงศ์สนิท จ.นครนายก คำว่าธรรมโษณณ์นี้ก็เป็นเช่นเดียวกับการโฆษณาธรรมนั่นเอง ท่านอาจารย์พุทธทาส เคยกล่าวไว้ว่า "อะไร ๆ มันก็เป็นธรรมโฆษณ์ได้ ถ้าทำให้เกิดความรู้ ความสว่างแก่ผู้ฟัง" ว่าโดยถึงที่สุดแล้ว ทุกท่านที่มาในวันนั้นต่างก็อุทิศตนเพื่อการนี้ในทางใดทางหนึ่งอยู่แล้วในวิถีชีวิต

อิทัปปัจจยตา เป็นหลักคำสอนในพุทธศาสนา ที่อธิบายถึงความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์ในลักษณะที่เป็นกลไกและปรากฏการณ์ของ สรรพสิ่ง เป็นหลักธรรมที่หลวงพ่อท่านอาจารย์พุทธทาส ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ถือว่าเป็นหัวใจ เป็นสัจธรรมความจริงแท้ที่สุดของพุทธศาสนา และนำไปสู่ภาวะบรรลุธรรมได้ อธิบายอย่างง่าย ๆ คือการเห็นว่าเพราะมีสิ่งนี้ ๆ เป็นปัจจัย สิ่งนี้ ๆ จึงเกิดขึ้น นั่นคือ สรรพสิ่งในโลกล้วนมีเหตุปัจจัยแห่งการก่อเกิด เปลี่ยนแปลง และดับสูญ (เปลี่ยนสถานะ) ทั้งสิ้น ที่สุดแล้ว คือการเห็นโลกตามที่เป็นจริง หรือมันเป็นเช่นนั้นเอง และเพราะเป็นอิทัปปัจจยตานี่เอง จึงไปยึดถือไม่ได้

ขอขอบคุรคณะผู้จัดที่เป็นสื่อกลางในการโฆษณาธรรม ขอบคุณที่เขาจะจัดเป็นโครงการต่อเนื่องทุก ๒ เดือน ด้วยหัวข้อธรรมที่คัดเลือกจากหนังสือชุดธรรมโฆษณ์ ถือเป็นการสร้างเหตุปัจจัยให้ถึงพร้อมด้วยประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน อาจารย์หมอประเวศ วะสี เรียกสิ่งนี้ว่า เรากำลังทำการ "ปฏิวัติเงียบ" หมายถึง การปฏิวัติอันสงบด้วยการเปลี่ยนแปรคุณภาพจิตของตนเอง ซึ่งยังมีคนอีกมากที่กำลังทำงานนี้ ถักทอเชื่อมโยงกันทั่วโลก และนี่เป็นสิ่งที่หลวงพ่อพุทธทาส ได้ทำให้เราเห็นเป็นแบบอย่างผ่านวิถีชีวิตทั้งหมดของท่าน

อาจารย์หมอประเวศ ยังช่วยให้ผู้เข้ารับการอบรมกระจ่างชัดถึงความเชื่อมโยงสัมพันธ์ระหว่าง จักรวาล สรรพสิ่ง และมนุษย์ ด้วยลักษณะของจิตที่ผ่านการฝึกอลรมให้เห็นตามที่เป็นจริง นอกเหนือจากการบรรยายและตอบข้อสงสัยอย่างลุ่มลึกแล้ว ฉันสัมผัสถึงกระแสแห่งความสงบเย็น เป็นกลาง และอ่อนน้อมถ่อมตนโอบคลุมทั่วทั้งวงสนทนา

"คือความเห็นด้วยความเป็นกลาง ว่าเป็นกระแสของเหตุปัจจัยที่ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีสิ้นสุด ไม่แยกขั้ว ไม่สุดโต่ง เชื่อมโยงทั้งภายใน ภายนอก และในธรรมชาตินั้น ก็เต็มไปด้วยกระแสของเหตุปัจจัย สิ่งที่เราเห็น รู้สึก ไม่อาจจริงทั้งหมด เพราะเราเห็นเป็นส่วน ๆ ถ้าเราสัมผัสรับรู้ธรรมชาติได้ตลอดเวลา เราจะหลุดจากความคับแคบของตัวเอง มิใช่เพียงตัวเราที่เป็นศูนย์กลาง ถ้าเราเข้าถึงความจริง จะได้พบความงาม ความงามอันเกิดจากการเห็นความจริงทั้งหมด ความเป็นทั้งหมด ละลายตัวเราออกไป เพราะเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของทั้งหมด และในนั้นมีความดี คือมีมิตรภาพอันไพศาลต่อเพื่อนมนุษย์และชีวิตทั้งมวลนี้ ทำให้เราเป็นอิสระ และมีความสุขอย่างแท้จริง การที่จะเข้าถึงความจริงได้ ต้องพิจารณาด้วยความเห็นอย่างเป็นกลาง พร้อมทั้งเจริญสติ คือฝึกการระลึกรู้ควบคู่ไปด้วย การฝึกกรรมฐานจึงควรเป็นวิถีชีวิตของทุกคน"

เช่นเดียวกัน วันรุ่งขึ้น คุณสันติสุข โสภณสิริ ผู้เคยบวชเรียนอยู่กับหลวงพ่อท่านอาจารย์พุทธทาส มาร่วมสนทนาถึงเกร็ดชีวิตของหลวงพ่อ และต่อยอดความเข้าใจเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์ สังคม และธรรมชาติอย่งแจ่มชัด โดยเฉพาะการมองอย่างอิทัปปัจจยตาต่อกรณีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในสัตว์ ปีก จนต้องฆ่าเป็ด ไก่ นับล้าน ๆ ตัว การฝึกพิจารณาปัจจยการของปรากฏการณ์ต่าง ๆ อยู่เสมอ ๆ จะช่วยให้เราเห็นเหตุและปัจจัยอย่างลึกซึ้ง เป็นกลาง เกิดความเข้าใจครอบคลุมรอบด้านมากยิ่งขึ้น "เพราะมีความต้องการเงินตรา จึงต้องเลี้ยงไก่ปริมาณมากเพื่อมุ่งเน้นการส่งออก

เพราะการเลี้ยงไก่ปริมาณมาก จึงมีความแออัด
เพราะมีความแออัด ไก่จึงอ่อนแอ ต้องใช้ยา และทำให้ไก่มีภูมิต้านทางโรคลดลง
และเพราะมีความต้องการเงินตราอย่างไม่จำกัด จึงมีการปกปิดข้อมูลข่าวสาร
เพราะเหตุนี้ เกษตรกรจึงไม่ทันป้องกัน โรคจึงแพร่ระบาดจากไก่สู่คนในที่สุด"

ในโอกาส ๑๐๐ ปีชาตกาลพุทธทาสภิกขุ ที่จะมาถึงในวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๔๙ เช่นนี้ การได้ทบทวนศึกษาธรรมโฆษณ์ ทั้งได้เสวนาธรรมกับกัลยาณมิตร ถือเป็นการปฏิบัติบูชาพระคุณของครูบาอาจารย์ทางหนึ่ง นำมาซึ่งความปีติ เบิกบาน จนต้องกล่าวย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ความบันเทิงในธรรมนั้นมีพลังมาก ต่อจากนี้ เราคงต้องเพียรสร้างเหตุปัจจัยเพื่อให้เข้าถึงความจริง ความงาม ความดี พยายามไปสู่จุดมุ่งหมายสูงสุดคือหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง

สนใจเข้าร่วมโครงการ สอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณสมบัติ ทารัก ผู้ประสานงานโครงการธรรมโฆษณ์ศึกษาฯ อาศรมวงศ์สนิท ๐-๓๗๓๓-๓๑๘๓ ถึง ๔

โดย จิตใส หิรัญเนตร
นสพ.โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันอาทิตย์ที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๗

 
บทบาทของกลุ่ม
  • อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
  • พัฒนาและฟื้นฟูชนบท จัดอบรมสัมมนา
  • ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา
  • จัดการศึกษาทางเลือก
  • เผยแผ่ศาสนธรรม
ฝ่ายประสานงาน
  • บ้านจิตอาสา ชั้น ๔ ๒๐๔๔/๒๑ ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพฯ ๑๐๓๑๐
เกี่ยวกับเรา
  • ประยุกต์ใช้หลักศาสนธรรมและพิธีกรรม กับชีวิต สังคม และธรรมชาติ อย่างสมสมัย ด้วยความร่วมมือระหว่างพุทธบริษัท และศาสนิกจากศาสนาอื่นๆ
ติดต่อเรา
  • Email: [email protected]
  • โทรศัพท์ : ๐๒-๓๑๙-๕๐๑๗, ๐๘๐-๔๔๖-๗๙๑๘ โทรสาร ๐๒-๓๑๙-๕๐๑๙
  • MSN: [email protected]